ปลอดภัยไว้ก่อน 8 จุดตรวจ ต้องเช็ครถ ก่อนออกเดินทางไกล
มิถุนายน 11, 2021 • Metinee Pue • ยังไม่มีหมวด
— views
เราเชื่อว่าการขับรถเที่ยว หรือ Road Trip เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดโปรดของใครหลายคน เพราะนอกจากความเป็นส่วนตัวในการเดินทางแล้ว เรายังได้ซึมซับบรรยากาศระหว่างทาง สามารถแวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างชิลๆ โดยที่ไม่มีกรอบเวลามาบังคับ แต่คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหากขณะเดินทางอยู่แล้วจู่ๆ รถคู่ใจของเราเกิดปัญหา เช่น สตาร์ทรถไม่ติด หรือขับรถไปแล้วรถดับระหว่างทาง ดังนั้น Surekrub เพื่อนคู่ใจ เรื่องประกันภัย ขอแชร์ทริคดีๆ ในการเช็ค 8 จุดสำคัญของรถก่อนการเดินทางมาให้เพื่อนๆ ได้ตรวจเช็คกัน เพื่อให้ทริปการท่องเที่ยวของเพื่อนๆ เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ปลอดภัย ไร้อุปสรรคใดๆ มาขวางกั้น! ตามมาดูกันว่า 8 จุดสำคัญที่ควรเช็ครถก่อนเดินทางไกล มีอะไรกันบ้าง
8 จุด เช็ครถก่อนเดินทางไกล
1. ยางรถยนต์
ยางรถยนต์เป็นจุดเช็คแรกที่เราต้องให้ความสำคัญมาก เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่มักเกิดจากความผิดปกติของยางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ยางระเบิด ดอกยางรถเสื่อมสภาพ ทำให้เกาะพื้นผิวถนนได้ไม่ดีพอ จนเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุทางรถยนต์นั่นเอง ดังนั้นก่อนการเดินทางไกลเราต้องตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ของเราให้เรียบร้อยว่าปกติหรือไม่ ควรเติมลมยางให้รถมีความสมดุลกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยการเติมลมยางนั้นเราสามารถทำเองได้ง่ายๆ ตามจุดให้บริการของปั๊มน้ำมัน ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดรถของเรา เช่น รถยนต์ขนาดเล็กจะเติมลมประมาณ 25 – 30 ปอนด์ รถยนต์ขนาดกลางจะเติมลมประมาณ 30 – 35 ปอนด์ รถกระบะจะเติมลมประมาณ 35 – 40 ปอนด์ และรถตู้ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7 – 10 คนจะเติมลมประมาณ 43 – 55 ปอนด์
2. แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ก็เป็นส่วนที่สำคัญมากเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของรถทั้งคันเลยทีเดียว เพราะถ้ากระแสไฟในแบตเตอรี่ของรถไม่ทำงาน รถของเราอาจจะไปตายกลางทางหรือสตาร์ทไม่ติดตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพทั้งเรื่องการเก็บประจุไฟ ระดับน้ำกลั่นในก้อนแบตเตอรี่ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ รวมไปถึงการทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ไม่ให้มีขี้เกลือเกาะสะสม ทั้งนี้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์จะอยู่ที่ก้อนละ 1.5 – 2 ปี ควรทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ตามเวลาที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
3. น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ส่งผลต่อระบบกลไกทั้งหมดของเครื่องยนต์ หากน้ำมันเครื่องของเราเสื่อมสภาพจะมีสีเข้ม ลักษณะข้นเหนียว ไปจนถึงมีคราบตะกอน ซึ่งจะส่งผลให้รถของเราอืด เร่งความเร็วไม่ขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นเราต้องตรวจเช็คและทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เมื่อครบรอบกำหนดระยะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาและยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ของเรา
4. หม้อน้ำและระบบหล่อเย็น
เรามักจะเห็นฉากในละครที่นางเอกขับรถอยู่ดีๆ แล้วมีควันพวยพุ่งขึ้นจากฝากระโปรงรถจนขับรถต่อไม่ได้ สาเหตุนั้นก็มาจากหม้อน้ำ และระบบการระบายความร้อนของรถยนต์มีปัญหานั่นเอง หากระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ไม่ดี จะทำให้เครื่องยนต์น็อคกลางทางไป จนถึงหม้อน้ำระเบิดได้ ซึ่งอันตรายมาก ดังนั้นเราจำเป็นต้องเช็คหม้อน้ำ ระบบท่อหล่อเย็นต่างๆ ว่ามีการรั่วซึมตรงไหนหรือไม่ ก่อนออกเดินทางเสมอ
5. ระบบเบรกและน้ำมันเบรก
เบรกถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องตรวจเช็คที่ห้ามมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้เราควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยแล้ว หากระบบเบรกมีปัญหาจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นจึงเราควรตรวจเช็คระบบนี้ทุกครั้งก่อนการเดินทาง และดูว่ามีการรั่วซึมของน้ำมันเบรกที่ไหนบ้างหรือไม่ เพื่อจะได้รีบแก้ไขได้ก่อนออกเดินทางไกลนั่นเอง
6. ช่วงล่างรถยนต์
ช่วงล่างรถยนต์ ส่งผลต่อการทรงตัวเวลาขับรถเป็นอย่างมาก เราสามารถสังเกตประสิทธิภาพของช่วงล่างรถยนต์ได้ ด้วยการทดลองขับรถไปบนพื้นถนน ทางตรงพื้นเรียบ หากพวงมาลัยมีการเอียงซ้าย เอียงขวา แสดงว่าช่วงล่างของเราเสียสมดุลแล้ว ให้รีบนำรถไปรับการตั้งศูนย์ถ่วงใหม่โดยเร็วที่สุดก่อนออกเดินทางไกล
7. ระบบไฟส่องสว่างของรถ
ไม่ว่าจะไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟฉุกเฉิน หรือไฟถอยหลัง ล้วนสำคัญต่อการส่งสัญญาณขับรถของเราทั้งสิ้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องตรวจเช็คสภาพของระบบไฟส่องสว่างรถของเรา ว่าใช้งานได้ดีหรือไม่ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยต่อตนเองและเพื่อนร่วมทางคันอื่นด้วยเช่นกัน
8. ชุดเครื่องมือประจำรถ
รถทุกคันควรมีเครื่องมือ หรือ อุปกรณ์สำรองติดไว้ เช่น เครื่องมือถอดล้อ ล้อ ยางอะไหล่ แม่แรง สายจั๊มพ์แบตเตอรี่ สายลากรถ เผื่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทางไกลจะได้ช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นได้ ก่อนที่ค่อยๆ ขับรถประคองไปถึงอู่ซ่อมรถที่ใกล้ที่สุดได้อย่างปลอดภัย
8 จุดสำคัญที่เราอยากให้เพื่อนๆ ตรวจเช็คสภาพรถก่อนที่จะออกเดินทางไกลทุกครั้ง เพื่อทริปท่องเที่ยวที่สนุก ปลอดภัย ไร้กังวล นอกจากการตรวจเช็คสภาพรถยนต์แล้ว การมีประกันภัยรถยนต์ติดไว้ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะประกันภัยรถยนต์จะคุ้มครองทั้งชีวิตและความเสียหายของรถได้อย่างครอบคลุม เรียกได้ว่าอุ่นใจขึ้นได้อีกเท่า หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์เพิ่มเติม สามารถปรึกษา Surekrub เพื่อนคู่ใจ เรื่องประกันภัยได้เลยครับ