เช็คก่อน ชัวร์กว่า 5 สาเหตุ ทำไม รถสตาร์ทไม่ติด
พฤษภาคม 30, 2022 • Metinee Pue • ยังไม่มีหมวด
— views
ก่อนจะออกเดินทางไปไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้ชัวร์ก่อน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเราได้เสมอ ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดมักเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดคิด และทำให้หลายคนมักจะเจอกับเหตุการ์ณรถสตาร์ทไม่ติด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นรถยนต์ก็ใช้ได้ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร หรือบางทีอาจมีสัญญาณอะไรมาบอกบ้างแล้ว แต่คุณอาจลืมสังเกตสัญญาณเตือนนั้นจนเกิดเหตุการ์ณของรถสตาร์ทไม่ติดได้
5 สาเหตุ รถสตาร์ทไม่ติด
1.แบตเตอรี่เสื่อม
หลาย ๆ คนอาจจะลืมสังเกตและลืมการตรวจสอบแบตเตอรี่ เพราะแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 2 ปี หรืออย่างเก่ง 3 ปี อาการที่เริ่มบ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของคุณเริ่มมีปัญหา คือเริ่มสตาร์ทติดยาก สตาร์ทแล้วมีเสียงแชะ ๆ แล้วเงียบ ต้องทำหลายครั้งถึงจะติดปกติ หรือให้สังเกตไฟหน้าปัดที่แสดงสถานะของแบตเตอรี่ถ้าไม่ติด หรือขึ้นแสดงอาการ ให้รีบเปลี่ยนด่วน
2.ไดร์สตาร์ทเสื่อมสภาพ
ถ้าไม่ใช่แบตเตอรี่ อีกสาเหตุหลัก คือไดร์สตาร์ท หน้าที่ของมันใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และจะทำงานเมื่อเราบิดกุญแจสตาร์ทหรือกดปุ่มสตาร์ท อาการที่บ่งบอกได้ว่าเริ่มเสื่อม คือหมุนกุญแจ หรือกดปุ่มสตาร์ทแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงียบ หรือหลังจากสตาร์ทติด มีเสียงผิดปกติ เสียงดังครืดคราด และอีกหนึ่งสาเหตุ คือการขับรถลุยน้ำท่วม ทำให้แปรงถ่านขัดตัว เกิดสนิมส่งผลให้ไดสตาร์ทไม่หมุน หรืออาจเกิดจากสายไฟที่ต่อไปยังไดร์สตาร์ทขาดหรือหลุดออกจากจุดต่อ
3. ไดชาร์ตเสื่อม
หน้าที่ของไดร์สตาร์ทคือ ทำหน้าที่ในการจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ และคอยสร้างกระแสไฟฟ้า เมื่อไดชาร์ตเสื่อมก็หมายความว่าไม่สามารถจ่ายไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ อาการจะคล้ายกับแบตเตอรี่เสื่อม รถสตาร์ทไม่ติด มีเสียงแชะนานขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เครื่องยนต์จะติด หรือบางครั้งเครื่องยนต์อาจจะดับเองในขณะขับ ซึ่งอันตรายไม่น้อยเลย โดยสามารถเช็คเองได้เบื้องต้น หากมีอาการไดชาร์ตเสื่อม คือสังเกตไฟหน้าสว่างน้อยลง แอร์ทำงานไม่เต็มที่ อุปกรณ์ไฟฟ้าเริ่มผิดปกติ หรือลองถอดขั้วแบตเตอรี่ออกหนึ่งข้าง หลังจากที่สตาร์ทรถทิ้งไว้ ถ้าหากมีอาการกระตุกหรือดับ นั่นแปลว่าเตรียมตัวบอกลาไดร์ชาร์ตตัวเก่าได้เลย
4. ขั้วแบตเตอรี่สกปรก
ขั้วแบตเตอรี่สกปรก หลายๆ คนอาจจะมองข้ามจุดนี้ไป เพราะส่วนใหญ่คิดว่าอาจจะเสื่อมมากกว่า แบตเตอรี่สกปรกเกิดจากไม่ค่อยได้ดูแลรักษา โดยแบตเตอรี่เก่าใช้งานมานานจนเกิดคราบขี้เกลือ จะมีลักษณะสีขาว ขุ่นเขียวผสมฟ้า เกาะบริเวณแบตเตอรี่ ทำให้ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนอื่น ๆ ได้ทั่วถึง เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าติดขัดทำให้สตาร์ทไม่ติดนั่นเอง วิธีการแก้ไขโดยง่าย คือใช้น้ำโซดา และแปรงขัดเบา ๆ แค่นี้ก็กลับมาสะอาดเหมือนเดิม
5. กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตัน
หน้าที่สำคัญของที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง คือดักจับสิ่งสกปรกต่าง ๆ อย่างฝุ่นผง หรือคาร์บอนที่มากับน้ำมัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้รถเราเสื่อมสภาพได้ เมื่อใช้ไปนาน ๆ ขาดการดูแล คราบสกปรกเหล่านี้ก็จะอุดตัน ทำให้น้ำมันไม่สามารถไปสู่เครื่องยนต์ได้ เพราะฉะนั้นหมั่นเช็คระยะ และเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อการใช้รถได้อย่างปลอดภัย และรักษารถให้คงสภาพใช้ได้นาน ๆ นะ
ตรวจเช็ครถยนต์คร่าวๆ ก่อนจะเดินทางไปไหนมาไหน ต้องตรวจสอบรถยนต์ของเราให้พร้อม เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราด้วย นี่เป็นเพียงแค่ 5 สาเหตุหลัก ๆ ที่ ชัวร์ครับ กล่าวมาเท่านั้น ยังมีส่วนอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด แนะนำว่าควรเข้าศูนย์ตรวจเช็กสภาพรถกันเรื่อย ๆ หรืออีกหนึ่งวิธีสะดวกมากๆ คือการทำประกันรถยนต์ เกิดมีปัญหารถยนต์แบบคาดไม่ถึง ก็มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ด้วยนะ
ซื้อ ประกันรถยนต์ กับ ชัวร์ครับ >> https://surekrub.com/motor-insurance